ทนายตั้ม เผย ลาออกพรรคเพื่อไทย เดินทางปรึกษา ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ก่อนถูกชวนเข้าพรรคพลังประชารัฐ ทนายตั้มยังไม่ให้คำตอบ ทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เดินทางเข้าพบนาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โดยระหว่างพูดคุยกัน ทนายตั้ม ได้กล่าวว่าตนได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว และวันนี้เข้าพบนาย สมศักดิ์ เทพสุทิน เพื่อขอคำปรึกษาทิศทางการเมืองว่าจะเอาเช่นไรต่อ
นายสมศักดิ์ก็ได้ถามว่า “จะออกไปไหนล่ะ งานด้านการเมือง ทนายตั้มไม่ควรหยุดเล่น
เพราะเป็นคนมีความสามารถ หากทำงานในด้านนี้ก็จะช่วยเหลือประชาชนได้ ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังเปิดรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานการเมืองอยู่ หากทนายตั้มสนใจ คิดว่า เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะหากทนายตั้มมีโอกาสเป็น ส.ส. น่าจะช่วยประชาชนได้เป็นจำนวนมาก”
ทั้งนี้นาย ษิทรา ยังไม่ได้ให้คำตอบทันทีและระบุว่า “ผมขอกลับไปคิดทบทวนดูก่อน คาดว่าภายในสิ้นเดือน ก.พ. นี้คงมีคำตอบ” คาดว่าสาเหตุที่ทนายตั้มลาออกจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากกรณีที่เปิดโปงอดีตรองนายกฯพรรคเพื่อไทยมีชู้จนกลายเป็นข่าวดังก่อนหน้านี้
ธนกร แสดงความมั่นใจว่า ประยุทธ์ กระแสมาแรงในทุกพื้นที่ ทุกภาค ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ โวเป็นนายกฯที่ไม่โกง ซื่อสัตย์ นาย ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แสดงความมั่นใจว่ากระแส ประยุทธ์ ก่อนการเลือกตั้งปี 66 กำลังมาแรง เชื่อทุกภาคเรียกร้องให้ ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อ
นายธนกรกล่าวว่า “วันนี้มั่นใจว่า กระแสนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมนับวันยิ่งดีวันดีคืน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศกระแส พล.อ.ประยุทธ์พุ่งขึ้นทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้นั้น เสียงตอบรับของคนใต้ถือว่าแรงมาก เพราะภาพลักษณ์ของคนที่จะมาเป็นนายกฯ ในสมัยหน้านั้น ประชาชนมองว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องซื่อสัตย์ ไม่โกง สานต่อนโยบายของรัฐบาลทุกนโยบายที่โดนใจประชาชน
ซึ่งทีผ่านมานายกฯ พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่ามีความมุ่งมั่นกับการทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนมากกว่าการตอบโต้ทางการเมือง และเด็ดขาดกับการทุจริตคอรัปชั่นขนาดไหน ทั้งนี้ เชื่อว่ายิ่งใกล้ถึงวันเลือกตั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติจะยิ่งได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะการบริหารประเทศที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นมีผลงานชัดเจน จับต้องได้ เป็นรูปธรรม
ขณะที่ระบบการจัดการภายในพรรคที่ดีมาก ยิ่งจะส่งเสริมให้พรรคได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากยิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าพรรคจะเริ่มทยอยเปิดนโยบายของพรรคในเร็วๆ นี้ มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้อย่างแน่นอน พร้อมจะมีการปราศรัยทั่วประเทศ
“เชื่อว่าหากมองด้วยความเป็นกลางจะเห็นตรงกันว่า จุดแข็งของ พล.อ.ประยุทธ์คือ ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เท่าที่ฟังกระแสเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ นั้น ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังให้การสนับสนุนท่านนายกฯ อยู่ เพราะอย่าลืมว่า วันนี้ประชาชนเข้าใจกับคำว่า ประชาธิปไตยมากขึ้น เข้าใจว่า ทุกพื้นที่ทั่วประเทศประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ ไม่มีใครเป็นเจ้าของพื้นที่ได้ตลอด
ดังนั้น การเลือกตั้งสมัยหน้าจึงเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ พรรคกลาง หรือพรรคขนาดเล็ก จะต้องแข่งขันกันที่นโยบาย รวมถึงการลงพื้นที่รับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิดกับประชาชนเพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบายพรรคเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่จะเป็นสิ่งจูงใจให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจลงคะแนนให้”
รัฐบาลดัน ส่งออกทุเรียน ปี 66 ตรวจเข้มมาตรฐาน
รองโฆษกสำนักนายกฯเผย รัฐบาลมีแผนดัน ส่งออกทุเรียน ปี 66 ตรวจเข้มมาตรฐาน สยบปัญหาทุเรียนอ่อน นางสาว รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดผลไม้ในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงการส่งออกผลไม้ไทยไปต่างประเทศยังสร้างรายได้ให้กับประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะทุเรียน ถือได้ว่าเป็นราชาผลไม้ไทย มีมูลค่าส่งออกแสนกว่าล้านบาทต่อปี ซึ่งผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนสิงหาคม 2566
โดยจะออกสู่ตลาดกระจุกตัวมากที่สุดในเดือนเมษายน ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขึ้นทะเบียน “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ของจังหวัดยะลา ปัจจุบันทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลามีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 190 บาท สร้างรายได้ให้คนยะลามากถึง 2,800 ล้านบาทต่อปี
มากไปกว่านั้น ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์แก้ไขปัญหาผลไม้ทุเรียนอย่างเป็นระบบตั้งแต่ช่วงการดูแลผลผลิต จนไปถึงการตัดทุเรียนขาย ที่ผ่านมามักประสบปัญหาการลักลอบขายทุเรียนอ่อน ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตร ได้สั่งการให้จัดระบบการทำงานเชิงรุก ผ่านคณะทำงานแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพและการสวมสิทธิ์ใช้ใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของเกษตรกรเพื่อการส่งออกทุเรียนของประเทศไทย โดยคณะทำงานได้จัดทำแผนพร้อมรับมือการแข่งการส่งออกทุเรียนของประเทศเพื่อนบ้าน
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า